ภาษาบาลี และสันสกฤต
ภาษาบาลี และสันสกฤต มีข้อแตกต่างหลายประการ เช่น
– สระ ภาษาบาลีมีสระ 8 เสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ส่วนภาษาสันสกฤตมีสระ 14 เสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา
– พยัญชนะ ภาษาบาลีมีพยัญชนะ 33 เสียง ส่วนภาษาสันสกฤตมีพยัญชนะ 35 เสียง (ตัวอักษร ศ และ ษ ไม่มีในบาลี)
– พยัญชนะควบกล้ำ ภาษาบาลีไม่นิยมควบกล้ำ แต่ภาษาสันสกฤตนิยมคำควบกล้ำ
– พยัญชนะ ฬ และ ฑ ภาษาบาลีนิยมใช้ ฬ ส่วนภาษาสันสกฤตนิยมใช้ ฑ
– ภาษาสันสกฤต นิยมใช้ “รร” ส่วนภาษาบาลีไม่ใช้ “รร” ตัวอย่างภาษาสันสกฤตที่ใช้ “รร” เช่น กรรม กรรณ ครรภ์ จรรยา ดรรชนี ธรรม
การยืมคำจากภาษาเขมร
คำยืมจากภาษาเขมรที่นำมาใช้ในภาษาไทย มีลักษณะ ดังต่อไปนี้
– มักใช้เป็นคำราชาศัพท์ เช่น เสวย เขนย ถวาย ขนง โปรด ตรัส
– คำเขมรที่ใช้ในคำสามัญทั่วไป เช่น กระบือ กระบาล (กบาล) โตนด โขมด จมูก เสนียด เพนียด ตำบล ถนน จังหวัด ทำเนียบ ลำเนา ชุมนุม ชมรม ฯลฯ
– คำเขมรที่เป็นคำโดดคล้ายกับภาษาไทย จนเราเองลืมไป คิดว่าเป็นคำไทยเพราะความใกล้ชิด ใช้กันมาตั้งแต่ก่อนเราเกิด แต่มีที่สังเกตได้ว่าเป็นคำเขมร ต้องแปลความหมายก่อนจึงจะเข้าใจ เช่น แข (ดวงจันทร์) บาย (ข้าว) เมิล (มอง) ศก (ผม) ฯลฯ
ภาษาจีนที่มีใช้ในภาษาไทย
ภาษาพื้นถิ่นเดิมของไทยมีลักษณะเรียบง่าย เป็นคำโดด และมีการผันเสียงวรรณยุกต์ จัดอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาไท ซึ่งใช้กันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแถบตอนใต้ของจีน หากไม่นับการดัดแปลงอักษรขึ้นใช้เอง ตามระบบผสมคำแบบบาลีและสันสกฤตแล้ว ภาษาไทยเดิมมีความใกล้ชิดกับภาษาจีนมากกว่า
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ชาวจีนเข้ามาค้าขาย แลกเปลี่ยนศิลปะ รวมถึงย้ายมาตั้งถิ่นฐานในสยาม จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ภาษาจีนจะเข้ามาปะปนกับภาษาไทย จนมีคำศัพท์จากภาษาจีนที่เราใช้กันจนติดปากและ ยากที่จะหาคำอื่นมาแปลได้
หลักการสังเกตคำภาษาไทยที่มาจากภาษาจีน
– เป็นชื่ออาหารการกิน เช่น ก๋วยเตี๋ยว เต้าทึง แป๊ะซะ เฉาก๊วย จับฉ่าย เป็นต้น
– เป็นคำที่เกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ที่เรารับมาจากชาวจีน เช่น ตะหลิว ตึก เก้าอี้ เก๋ง ฮวงซุ้ย
– เป็นคำที่เกี่ยวกับการค้า เช่น เจ๊ง หุ้น ห้าง โสหุ้ย เป็นต้น
– เป็นคำที่ใช้วรรณยุกต์ตรี จัตวา เป็นส่วนมาก เช่น ก๋วยจั๊บ กุ๊ย เก๊ เก๊ก ก๋ง ตุ๋น เป็นต้น
คำที่มาจากภาษาอังกฤษ
คนไทยได้ศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมาเป็นเวลานาน จากการติดต่อค้าขาย และการทูต จนภาษาอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของคนไทยมากขึ้น ทั้งในด้านการพูด และการเขียนสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในปัจจุบัน คนไทยศึกษาความรู้และวิทยาการต่างๆ จากตำราภาษาอังกฤษ และสนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษกันมากขึ้น คำยืมจากภาษาอังกฤษจึงหลั่งไหลเข้ามาในภาษาไทยมากขึ้นทุกขณะ ทั้งในวงการศึกษา ธุรกิจ การเมือง การบันเทิง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เรารับภาษาอังกฤษมาใช้ในรูปแบบของการทับศัพท์เท่านั้น การทับศัพท์หมายถึง การถ่ายเสียง และถอดตัวอักษรเป็นภาษาไทย
ตัวอย่างคำทับศัพท์จากภาษาอังกฤษที่มีใช้ในภาษาไทย
กราฟ การ์ตูน กลูโคส กัปตัน แก๊ส กุ๊ก เกียร์ แก๊ง แกลลอน คริสต์มาส ไดนาโม ไดโนเสาร์ ครีม คลอรีน คอนกรีต คลินิก คอนเสิร์ต คอมพิวเตอร์ คุกกี้ เคเบิล เครดิต แคปซูล เคาน์เตอร์ แคลอรี โควตา ชอล์ก ช็อกโกเลต เช็ค เชิ้ต เชียร์ โชว์ ซีเมนต์ เซลล์ ไซเรน ดีเซล ดอลลาร์ ดีเปรสชัน เต็นท์ ทอนซิล เทอม แท็กซี่ แทรกเตอร์ นิโคติน นิวเคลียร์ นีออน นิวเคลียส โน้ต ไนลอน บล็อก เบนซีน แบคทีเรีย ปลั๊ก ปิกนิก เปอร์เซ็นต์ พลาสติก พีระมิด ฟลูออรีน ฟอร์มาลีน ฟังก์ชัน ฟาร์ม ฟิสิกส์ มอเตอร์ มัมมี่ มาเลเรีย โมเลกุล ไมล์ ไมโครโฟน ไมโครเวฟ ยิปซัม ยีราฟ ริบบิ้น เรดาร์ ลิกไนต์ ลิปสติก เลเซอร์ วัคซีน วิตามิน ไวโอลิน